คิดแบบนักการตลาด : Marketing Tips for Non-Marketer
(เคล็ดลับสำหรับผู้ที่ไม่ใช่นักการตลาด)
เมื่อจะเริ่มต้นทำธุรกิจ สิ่งที่นักธุรกิจต้องตระหนักและคิดถึงเป็นเรื่องแรกไม่ใช่การหาเงินทุนเริ่มต้นธุรกิจ ที่ตั้งโรงงาน หรือวิธีซื้อเครื่องจักรผลิตผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการออกแบบ สร้างสรรค์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์ความจำเป็นและต้องการของผู้ซื้อ นั่นคือ การตลาด หรือ Marketing
การตลาดจึงเป็นเครื่องมือของนักธุรกิจที่สำคัญไม่น้อยกว่าศาสตร์หรือศิลป์อื่น ๆ ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องมีการตลาดอยู่ใน Mindset เสมอ
แต่หากเราจะไม่ได้ผ่านบทเรียนหรือประสบการณ์การตลาดมาก่อน จะสามารถทำธุรกิจยุค Digital ได้หรือไม่?
ตอบว่า “ได้” เพราะในยุค Digital เรามีเครื่องมือบริหารจัดการการตลาดให้เลือกและทดลองใช้อย่างหลากหลายมากมาย ด้วยงบประมาณที่ไม่ต้องทุ่มทุนระดับหลักแสน หลักล้าน หรือหลาย ๆ ล้าน เช่นในอดีต รวมถึง มีโอกาสที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมจากหลักสูตรฝึกอบรมต่าง ๆ เช่น Fast Mini MBA in Marketing for Non Marketer แต่ที่สำคัญ คือ เราต้องมีวิธี “คิด” ของนักการตลาดยุค Digital ติดตัวเสมอ
- หาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้พบ
หัวใจของการทำการตลาด ไม่ได้อยู่ที่การออกแบบแผนการตลาด และกลยุทธ์การตลาดที่เลิศหรู แต่อยู่ที่การหาลูกค้าเป้าหมายของเราให้พบ และทำความเข้าใจการใช้ชีวิตของพวกเขาให้ถ่องแท้ หรือที่เราเรียกว่าการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า (Customer Behavior) เพื่อให้ทราบตั้งแต่สื่อที่ใช้ วิธีการและเวลาใช้สื่อ อุปกรณ์สื่อสาร กลุ่มอิทธิพลที่มีผลต่อการตัดสินใจ ฯลฯ จากนั้นจึงนำจุดเด่นของเราที่แตกต่างจากคู่แข่ง สื่อไปให้ถึงพวกเขาด้วยกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม
เคล็ดลับการค้นหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราในยุค Digital คือ การเข้าไปศึกษาคุณลักษณะของผู้ใช้ (Users) ที่มีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหาใน Website หรือ Social Media ของเรา เพื่อค้นหาบุคลิกของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเพื่อที่เราจะใช้เป็นข้อมูลสร้าง Customer Journey ต่อไป
- ทำความเข้าใจ Customer Journey ของลูกค้า
เราต้องรู้จักและสามารถออกแบบเส้นทางการตัดสินใจซื้อของลูกค้า หรือ Customer Journey เพื่อค้นหาวิธีการที่เหมาะสมในการสร้างปฏิสัมพันธ์ หรือจุดสัมผัส (Touchpoint) ที่เหมาะสมและได้ผลกับลูกค้าของเรา ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ เกณฑ์การเลือก วิธีการซื้อ การกลับมาซื้อซ้ำ ซึ่งหากเราสามารถสร้างความพอใจให้เกิดกับลูกค้าของเราได้แล้ว โดยไม่ใช้วิธี “ตีหัวเข้าบ้าน” เราจะสามารถเปลี่ยนลูกค้าประจำให้เป็นผู้สนับสนุน (Advocacy) ผลิตภัณฑ์หรือ Brand ของเราได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลทางการตลาดที่น่าพอใจกับเราได้ต่อเนื่อง ยาวนาน และคุ้มค่าการลงทุนที่สุด
- ยุค Digital ต้องรู้จัก Paid Owned Earned Media
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจสื่อในยุค Digital ซึ่งถูกแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ Paid Owned Earned ที่เราต้องรู้จักและใช้ให้เป็น เพราะจะช่วยสร้างความคุ้มค่าด้านการเข้าถึง สร้างการรับรู้ไปยังลูกค้าของเราได้
Paid คือ สื่อที่เราต้องจ่ายหรือซื้อ เช่น ในสื่อ Digital เราต้องซื้อการโฆษณาในรูปแบบ Display หรือ Banner บน Website ต่าง ๆ หรือการซื้อ Keyword กับ Google และการทำ Re-Marketing!!!
Owned คือ สื่อที่ผลิตภัณฑ์หรือ Brand ของเราต้องมีในยุค Digital ทั้ง Website, Social Media หรือแม้แต่ Blog ที่มีเนื้อหาหรือ Content ที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและสนับสนุนผลิตภัณฑ์หรือ Brand ของเรา
Earned คือ สื่อของบุคคลที่ 3 ที่หมายรวมถึงลูกค้าประจำที่เปลี่ยนมาเป็นผู้สนับสนุน (Avocacy) ผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งได้นำผลิตภัณฑ์ของเราไปกล่าวถึงในรูปแบบการวิจารณ์หรือแนะนำ (Re-View) ในสื่อของเขา รวมถึง การ Share เนื้อหาจาก Website, Social Media หรือ Blog ของเราออกไปสู่ผู้ติดตามหรือเพื่อน ๆ ของพวกเขา กระทั่ง เป็นกระแส “ปากต่อปาก” แต่ปากต่อปากในยุค Digital จะไปได้ไกล เร็ว และเห็นผลมากกว่าอดีตหลายพันเท่า
Owned Media เป็นสื่อที่เราต้องมีในยุค Digital ขณะที่ Paid Media เราต้องเรียนรู้วิธีใช้ ทดลองใช้ และเปรียบเทียบผลลัพธ์ เพื่อค้นหาแนวทางที่เหมาะสม คุ้มค่ากับเราที่สุด และ Earned Media คือ สื่อที่เราต้องสร้างให้เกิดขึ้นให้ได้จากผลการดำเนินงานและกลยุทธ์การตลาดของเรา
- ออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่หวังผลได้
การออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมและสามารถคาดหวังผลสำเร็จล่วงหน้าได้ ต้องมีความเชื่อมโยงกับพฤติกรรมของลูกค้าใน Customer Journey ที่เราออกแบบไว้ ดังนั้น กลยุทธ์การตลาดจึงควรออกแบบให้สอดรับประสานไปบนเส้นทางการตัดสินใจซื้อของลูกค้าอย่างต่อเนื่องไร้รอยต่อ ตั้งแต่กลยุทธ์สร้างการรับรู้ จูงใจโน้มน้าวให้เลือกและตัดสินใจซื้อ สร้างความสะดวกที่จะซื้อ กระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำหรือเป็นลูกค้าประจำ ด้วย Loyalty Program โดยดัชนีวัดผลสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดที่ดี คือ การเปลี่ยนลูกค้าประจำให้เป็นผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์หรือ Brand ของเรา
บ่อยครั้งที่นักการตลาดระดับมืออาชีพ จะคิดค้นกลยุทธ์การตลาดขึ้นมาได้ระหว่างการจัดทำ Customer Journey … เช่นเดียวกัน เราจึงสามารถออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่หวังผลได้ในขณะเวลานั้นเช่นกัน โดยจำลองตัวเราให้เป็นลูกค้า เพื่อคิดให้ได้ว่าลูกค้าจะสนใจเรื่องใด และกำลังต้องการอะไร ในลักษณะ “เอาใจเขา มาใส่ใจเรา” ร่วมกับการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และการเรียนรู้ด้วยตนเองจากช่องทางต่าง ๆ แล้วกลยุทธ์การตลาดของเราจะหวังผลได้เหมือนกัน
- e-Mail Marketing ยังได้ผล
ในยุค Digital ที่ทุกคนใช้ Social Media เป็นสื่อประจำตัวในชีวิตประจำวัน ใช่ว่า e-Mail Marketing จะหมดความสำคัญไปจากแผนและกลยุทธ์การตลาดของเรา!!!
e-Mail ยังคงเป็นช่องทางการตลาดที่สำคัญ ในช่วงเวลาของการกระตุ้นลูกค้าให้เกิดการซื้อซ้ำ หรือสร้าง Loyalty Program ให้กับผลิตภัณฑ์หรือ Brand ของเรา โดยมีเกร็ดเกี่ยวกับการจัดการ e-Mail Marketing ที่เราพึงตระหนัก คือ
– ต้องมีช่องทางให้ลูกค้าสมัครรับ e-Mail จากเราได้สะดวก
– ศึกษา e-Mail Analytic ให้ทราบพฤติกรรมการเปิด e-Mail ของลูกค้า เพื่อปรับเนื้อหาและเวลาจัดส่งตามที่ลูกค้าจะมีเวลาเปิดอ่าน
– เนื้อหาใน e-Mail ควรสั้น กระชับ และตรงประเด็น คือ ตอบสนองสิ่งที่ลูกค้ากำลังสนใจหรือต้องการ
- ใช้ Influencer
การตลาดในยุค Digital ที่มี Influencer เป็นเครื่องมือช่วยสร้างความน่าสนใจ น่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์หรือ Brand ของเรา แม้จะเพิ่มเริ่มและมีมาไม่นาน แต่กลับก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นช่องทางสำคัญ ที่นักการตลาดระดับต่าง ๆ ไม่สามารถมองข้ามไปได้
ดังนั้น ในขั้นการหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราให้พบ เราควรจะค้นพบ Influencer ที่มีอิทฺธิพลต่อการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์หรือ Brand ของพวกเขาด้วย จากนั้นจึงคัดเลือก Influencer ที่เหมาะสม คุ้มค่า กับค่าใช้จ่ายที่เราต้องลงทุนกับ Influencer แต่ละคน ในแต่ละครั้ง
อย่าลืมว่า Influencer จำนวนมากเริ่มต้นจากการเป็นเพียงบุคคลธรรมดาคนหนึ่ง ที่สามารถสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจในสื่อ Digital ให้มีผู้สนใจเนื้อหาและติดตามพวกเขาได้ … คุณก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นได้เหมือนกัน หากหาตัวตนที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ของคุณได้พบ บางทีคุณอาจจะเป็นทั้งนักการตลาดมืออาชีพ และ Influencer ได้ในเวลาเดียวกัน
การตลาด ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเป็นนักการตลาดมาก่อนจึงจะออกแบบแผนงานหรือพัฒนากลยุทธ์การตลาดให้ประสบความสำเร็จได้ เพราะสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง คือ ต้องมี Mindset การตลาดติดตัว ตระหนักและให้ความสำคัญกับลูกค้าในทุก ๆ กระบวนการดำเนินงาน และอย่าใช้วิธี “ตีหัวเข้าบ้าน” มาเป็นกลยุทธ์การตลาด เพราะนอกจากคุณจะขายได้แค่ครั้งเดียวแล้ว ยังอาจจะหมดโอกาสทางธุรกิจไปอีกนาน จากการเอาคืนของลูกค้าด้วยวิธี “ปากต่อปาก”
หลักสูตร Fast Mini MBA in Marketing for Non Marketer #3 เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้ความรู้ทางการตลาดอย่างรอบด้านทันสมัยแตกต่างจากเดิม เพื่อให้เหมาะสมกับ ผู้บริหารที่ต้องรับผิดชอบด้านการตลาด แต่ไม่มีพื้นฐานด้านการตลาด หรือผู้บริหารที่ต้องทางานร่วมกับฝ่ายการตลาดทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมทั้งเจ้าของธุรกิจ, ผู้บริหาร ผู้จัดการทุกแผนกและหัวหน้างานทุกระดับ ที่ไม่ใช่นักการตลาดและต้องการพัฒนาความรู้ด้านการตลาดของตนเอง เพื่อนาไปปรับใช้ในการทางานให้มีศักยภาพมายยิ่งขึ้น
- คลิกเพื่อสมัคร : Google From : https://forms.gle/5CeGGzXCu9R7ptcb7
- หรือ ดูรายละเอียดที่ : https://www.fastminimba.com